ชี้ข้อดี-ข้อเสียระหว่างซอฟแวร์แบบ CLOUD และ ON-PREMISE


ปัจจุบันนี้บริษัทส่วนใหญ่ได้เปลี่ยนการใช้งานแบบ On Premise มาใช้ระบบคลาวด์ในการจัดเก็บข้อมูลต่างๆของบริษัท โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่เกิดการระบาดของไวรัสโคโรน่า บังคับให้บริษัทต่างๆทยอยปรับตัวสู่การทำงานออนไลน์มากขึ้น แต่คุณอาจเป็นคนหนึ่งที่ยังไม่แน่ใจว่าระบบคลาวด์เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจคุณหรือไม่ ระบบแบบใดที่ปลอดภัย เข้าถึงได้ง่าย และราคาไม่แพง วันนี้เราจะมาเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียให้ดูกัน
ระบบ ‘คลาวด์’ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา และจากข้อมูลของ Gartner (การ์ทเนอร์)ระบุว่าร้อยละ 72 ของธุรกิจที่ใช้โมเดลซอฟต์แวร์คลาวด์ในปี 2558 ได้ทลายข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์สู่ความคล่องตัวทั้งในด้านฟังก์ชันการใช้งานและประโยชน์ด้านการใช้งานมากมาย แต่ถึงอย่างนั้น ระบบคลาวด์กับฮาร์ดแวร์ยังคงถูกถกเถียงกันอย่างถึงพริกถึงขิง

ชี้ข้อดี-ข้อเสียระหว่างซอฟแวร์แบบ CLOUD และ ON-PREMISE


เปรียบเทียบกันชัดๆระหว่างระบบ Cloud vs On-Premise

โดยพื้นฐานแล้วความแตกต่างระหว่างระบบทั้งสองนี้คือการติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ของธุรกิจของคุณ ในขณะที่คลาวด์อยู่บนเซิร์ฟเวอร์ของ Vendor ผู้ขายและเข้าถึงได้ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ นอกจากการเข้าถึงแล้วยังมีปัจจัยอื่นๆอีกมากมายที่เจ้าของกิจการต้องพิจารณาเมื่อทำการตัดสินใจซื้อซอฟต์แวร์ ต้นทุน การอัปเดตและบริการเพิ่มเติม

ข้อดีของระบบ Cloud

ชี้ข้อดี-ข้อเสียระหว่างซอฟแวร์แบบ CLOUD และ ON-PREMISE


  • เข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา – คุณสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันของคุณได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดที่มีอินเทอร์เน็ต ผ่านเว็บเบราว์เซอร์และจากทุกอุปกรณ์
  • ราคาจับต้องได้ – แทนที่คุณจะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ระบบคลาวด์เป็นระบบที่คิดค่าบริการตามการใช้งาน ในขณะที่ค่าใช้จ่ายรายเดือนจะเพิ่มขึ้นต่อเมื่อเวลาผ่านไป แต่ค่าบริการบำรุงรักษาและบริการสนับสนุนให้ความช่วยเหลือต่างๆได้รวมเอาไว้หมดแล้ว ทำให้คุณไม่ต้องกังวลกับการทำสัญญารายปี
  • ประมาณค่าใช้จ่ายได้ – ค่าบริการการใช้จ่ายรายเดือนสามารถประมาณได้เพราะการบริการได้ครอบคลุม ใบอนุญาตซอฟต์แวร์ การอัปเกรด และบริการการช่วยเหลือ พร้อมการสำรองข้อมูลรายวันไว้หมดแล้ว
  • หมดกังวลกับปัญหาทางเทคนิค – เนื่องจากซอฟต์แวร์คลาวด์ถูกโฮสต์ไว้สำหรับคุณแล้ว ดังนั้น คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการบำรุงรักษาซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ที่มีอยู่ เพราะผู้ให้บริการคลาวด์ได้จัดการระบบให้ใช้งานได้ร่วมกัน พร้อมการอัปเกรดระบบแบบ Real-time
  • ความปลอดภัยสูง – ศูนย์การเก็บข้อมูลบนระบบคลาวด์มีความปลอดภัยที่เหนือกว่าบนเซิร์ฟเวอร์ในสำนักงานของคุณ เช่น ระบบการให้บริการของ ByteHR เองได้ใช้ระบบคลาวด์ของ Microsoft Azure ซึ่งเป็นระบบคลาวด์ที่บริษัทชั้นนำทั่วโลกใช้ มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง มั่นใจได้ว่าข้อมูลในบริษัทคุณจะไม่รั่วไหล
  • การใช้งานที่ง่าย – ระบบคลาวด์นั้นติดตั้งผ่านระบบอินเทอร์เน็ตในเวลาไม่กี่ชั่วโมง หรือภายในไม่กี่วัน เมื่อเทียบกับระบบ On-Premise ซึ่งต้องติดตั้งตู้เซิร์ฟเวอร์ให้กับคอมพิวเตอร์แต่ละตัว


  • ใช้พลังงานน้อยกว่า – เมื่อคุณย้ายระบบไปไว้บนคลาวด์ คุณก็ไม่จำเป็นจะต้องจ่ายค่าตู้เซิร์ฟเวอร์หรือค่าบำรุงรักษาสถานที่จัดเก็บอีกต่อไป และช่วยให้คุณลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไปได้กว่าครึ่ง
  • การเชื่อมต่อ – ระบบคลาวด์จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต่อเมื่อระบบต้องเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเท่านั้น
  • ค่าใช้จ่ายในระยะยาว – แม้การใช้ระบบคลาวด์จะมีค่าใช้จ่ายล่วงหน้าที่น้อยกว่า ระบบคลาวด์อาจมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นในแง่ของต้นทุนความเป็นเจ้าของตลอดวงจรชีวิตของระบบ เพราะจะเป็นการจ่ายค่าบริการไปเรื่อยๆเหมือนการเช่าซื้อ แต่นี่ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นข้อเสียสักทีเดียวถ้าเทียบกับการกำจัดค่าใช้จ่ายจุกจิกจิปาถะต่าง
  • ปรับแต่งได้น้อยกว่า – โดยทั่วไปแล้วระบบคลาวด์นั้นสามารถกำหนดค่าได้ แต่ขึ้นอยู่กับวิธีการโฮสต์ ซึ่งระบบคลาวด์อาจไม่สามารถรับมือกับการพัฒนาที่ซับซ้อนได้


ข้อเสีย

ข้อดีของระบบ On-Premise

ชี้ข้อดี-ข้อเสียระหว่างซอฟแวร์แบบ CLOUD และ ON-PREMISE
  • ต้นทุนของการเป็นเจ้าของ – การใช้ระบบ On-Premise ที่เป็นฮาร์ดแวร์ตู้เซิร์ฟเวอร์ คุณจะชำระค่าใบอนุญาตผู้ใช้เพียงครั้งเดียว และอาจมีต้นทุนการเป็นเจ้าของที่ต่ำกว่าระบบคลาวด์
  • การควบคุมที่สมบูรณ์ – แพลตฟอร์มข้อมูลฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ทั้งหมด รวมถึงการกำหนดค่า และการอัปเกรดการเปลี่ยนแปลงระบบเป็นของคุณ
  • เวลาใช้งาน – ด้วยระบบ On-Premise คุณไม่ต้องพึ่งพาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหรือปัจจัยภายนอกในการเข้าถึงซอฟต์แวร์ของคุณ
  • ต้นทุนค่าใช้จ่ายที่มหาศาล – ระบบ On-Premise มักจะมีการคิดค่าใช้จ่ายล่วงหน้าซึ่งจำเป็นต้องจ่ายค่าต้นทุนบวกกับค่าบำรุงรักษา บริการหลังการขายและการอัปเกรดฟังก์ชัน
  • การดูแลบำรุงรักษา – ด้วยระบบแบบ On-Premise คุณต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนของการบำรุงรักษาเซิร์ฟเวอร์ ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ การสำรองข้อมูล พื้นที่การจัดเก็บและการกู้คืนระบบ นี่อาจเป็นปัญหาสำหรับบริษัทขนาดเล็กที่มีงบประมาณและทรัพยากรจำกัด
  • เวลาในการติดตั้งที่นานขึ้น – การติดตั้งแบบ On-Premise ใช้เวลานาน เพราะต้องใช้เวลาต่อเครื่องและติดตั้งเซิร์ฟเวอร์และคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง



ข้อเสีย

จากข้อมูลที่เราให้ไปนี้ คุณคงได้เรียนรู้ความแตกต่างระหว่างระบบ Cloud และ On-Premise กันไปแล้ว ในบทความหน้า เราจะมาเจาะลึกยิ่งขึ้นว่าทำไมคุณถึงควรเลือกใช้ระบบ Cloud มากกว่า On-Premise
หากคุณยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นใช้โปรแกรมบริหารทรัพยากรบุคคลหรือระบบบริหารจัดการกะเวลาของพนักงานบน Cloud ดีรึเปล่า และฟังก์ชันต่าง ๆจะตอบสนองความต้องการใช้งานของบริษัทคุณหรือไม่
คุณสามารถปรึกษา ByteHR ฟรีได้ทาง 02 026 3297 หรือติดต่อ sales@byte-hr.com
อ้างอิง [1]

Image credit : Pixabay

« HR ควรจัดการระบบการจ้างงานอย่างไรในช่วง COVID-19ทำไมระบบ Cloud ถึงดีกว่า On-Premise? »
Sea
About the author
Khun Sea brings over nine years of diverse professional experience spanning across HR, recruitment and marketing in the technology and startup industries. Currently, she's making her mark in London's hospitality sector, leveraging her vast experience to drive innovative marketing strategies.