รู้รอบเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในประเทศไทย
ภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นภาษีที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ผู้ประกอบการจำเป็นต้องเข้าใจหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติให้ถูกต้อง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาและบทลงโทษทางภาษี ในบทความนี้ ByteHR ผู้นำด้านโปรแกรม HR จะมาอธิบายเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถใช้ประโยชน์จากสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่รัฐจัดให้ได้อย่างเต็มที่
ภาษีมูลค่าเพิ่ม คือ ภาษีที่จัดเก็บจากมูลค่าของสินค้าหรือบริการที่เพิ่มขึ้นในแต่ละขั้นตอนการผลิตและจำหน่าย
- อัตราปัจจุบัน 7% (ลดลงจากอัตราปกติ 10%)
- เป็นภาษีทางอ้อมที่ผู้บริโภคเป็นผู้รับภาระภาษี
- ผู้ประกอบการเป็นผู้จัดเก็บและนำส่งภาษี
ผู้มีหน้าที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
เกณฑ์การจดทะเบียน
- รายได้จากการขายสินค้าหรือให้บริการเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี
- ผู้นำเข้าสินค้าทุกราย
- ผู้ประกอบการที่ขายสินค้าหรือบริการที่อยู่ในข่ายต้องเสียภาษี
ข้อยกเว้น
- ผู้ประกอบการที่ขายสินค้าหรือให้บริการที่ได้รับการยกเว้น
- ผู้ประกอบการที่มีรายได้ไม่เกินเกณฑ์
- เกษตรกร
- ผู้ประกอบวิชาชีพอิสระบางประเภท
สินค้าและบริการที่อยู่ในข่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม
สินค้าที่ต้องเสียภาษี
- สินค้าทั่วไปที่ผลิตเพื่อขาย
- สินค้านำเข้าจากต่างประเทศ
- สินค้าส่งออก (อัตรา 0%)
- สินค้าฟุ่มเฟือย
บริการที่ต้องเสียภาษี
- บริการทั่วไปในประเทศ
- บริการที่ใช้ในประเทศ
- บริการส่งออก (อัตรา 0%)
- บริการระหว่างประเทศ
สินค้าและบริการที่ได้รับการยกเว้น
สินค้าที่ได้รับยกเว้น
- สินค้าเกษตรที่ยังไม่แปรรูป
- หนังสือพิมพ์ นิตยสาร และตำราเรียน
- ยาและเวชภัณฑ์
- ปุ๋ย และยาฆ่าแมลงทางการเกษตร
บริการที่ได้รับยกเว้น
- บริการสาธารณสุข
- บริการการศึกษา
- บริการขนส่งในประเทศ
- บริการวิจัยและพัฒนา
- บริการห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์
การคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม
วิธีการคำนวณ
- ภาษีขาย (Output Tax) - ภาษีซื้อ (Input Tax)
- การคำนวณฐานภาษี
- อัตราภาษีสำหรับสินค้าและบริการต่างๆ
- การปัดเศษทศนิยม
ตัวอย่างที่ 1: ร้านค้าขายสินค้า
ราคาสินค้า = 1,000 บาท
VAT 7% = 1,000 × 7% = 70 บาท
ราคารวม VAT = 1,000 + 70 = 1,070 บาท
ตัวอย่างที่ 2: กรณีแยก VAT จากราคาที่รวม VAT แล้ว
ราคารวม VAT = 2,140 บาท
คำนวณหา VAT = 2,140 × 7/107 = 140 บาท
ราคาสินค้าก่อน VAT = 2,140 - 140 = 2,000 บาท
ตัวอย่างที่ 3: บริษัทให้บริการ
ค่าบริการ = 5,000 บาท
VAT 7% = 5,000 × 7% = 350 บาท
ราคารวม VAT = 5,350 บาท
ภาษีซื้อที่นำมาหักได้
- ภาษีซื้อที่เกี่ยวข้องกับกิจการ
- ภาษีซื้อที่มีหลักฐานถูกต้อง
- ภาษีซื้อที่เกิดในประเทศ
- ภาษีซื้อที่ไม่มีข้อห้าม
การจัดทำเอกสารและรายงาน
ใบกำกับภาษี
- ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป
- ใบกำกับภาษีอย่างย่อ
- ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์
- ข้อมูลที่ต้องมีในใบกำกับภาษี
รายงานภาษี
- รายงานภาษีขาย
- รายงานภาษีซื้อ
- รายงานสินค้าและวัตถุดิบ
- การเก็บรักษารายงานและเอกสาร
การยื่นแบบและชำระภาษี
กำหนดเวลา
- ยื่นแบบ ภ.พ.30 ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป
- การยื่นเพิ่มเติม
- การขอขยายเวลา
- การชำระภาษี
ช่องทางการยื่นแบบ
- ยื่นผ่านอินเทอร์เน็ต
- ยื่นที่สำนักงานสรรพากร
- ยื่นทางไปรษณีย์
- ยื่นผ่านตัวแทน
บทลงโทษและค่าปรับ
การไม่จดทะเบียน
- โทษทางอาญา
- เบี้ยปรับและเงินเพิ่ม
- การระงับใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
การยื่นแบบล่าช้า
- เบี้ยปรับ 1,000-2,000 บาท
- เงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือน
- ดอกเบี้ยกรณีผ่อนชำระ
การขอคืนภาษี
กรณีที่ขอคืนได้
- ภาษีซื้อมากกว่าภาษีขาย
- การส่งออกสินค้า
- การประกอบกิจการในเขตปลอดอากร
- กรณีพิเศษอื่นๆ
ขั้นตอนการขอคืน
- การยื่นคำร้อง
- เอกสารประกอบ
- ระยะเวลาดำเนินการ
- การติดตามผล
สิทธิประโยชน์ทางภาษี
การส่งออก
- อัตราภาษี 0%
- การขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
- เอกสารที่ต้องใช้
การลงทุน
- สิทธิประโยชน์ BOI
- การยกเว้นภาษีในเขตเศรษฐกิจพิเศษ
- การส่งเสริมการลงทุน
การติดต่อและสอบถามข้อมูล
ช่องทางการติดต่อ
- สายด่วนกรมสรรพากร 1161
- สำนักงานสรรพากรพื้นที่
- เว็บไซต์กรมสรรพากร www.sso.go.th
- ศูนย์บริการข้อมูลธุรกิจ
การขอคำปรึกษา
- การหารือภาษีอากร
- การขอความเห็นล่วงหน้า
- การอุทธรณ์
- การร้องเรียน
แต่ละธุรกิจอาจมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันไป หากมีข้อสงสัยควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรโดยตรง
ติดตามบทความความรู้เกี่ยวกับภาษี เคล็ดลับและความรู้สำหรับพนักงานและผู้ประกอบการ และการพัฒนาทรัพยากรบุคคลได้ที่ ByteHR หรือ หากคุณต้องการเริ่มต้นใช้โปรแกรมสำหรับ HR แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มอย่างไรและฟังก์ชันต่างๆจะตอบสนองความต้องการใช้งานของบริษัทคุณหรือไม่ ลองปรึกษา ByteHR ได้ฟรีทาง 02 026 3297 หรือติดต่อ sales@byte-hr.com