7 เคล็ดลับเตรียมตัวสัมภาษณ์อย่างไรให้ได้งาน

การสัมภาษณ์งานเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะเป็นตัวกำหนดว่าคุณจะได้งานในฝันหรือไม่ การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จและสร้างความมั่นใจให้กับตัวคุณเอง ByteHR จะชวนมาดูกันว่าควรเตรียมตัวอย่างไรให้ผ่านการสัมภาษณ์และได้งานที่ต้องการ
การเตรียมตัวก่อนวันสัมภาษณ์
ศึกษาข้อมูลบริษัทอย่างละเอียด
การรู้จักบริษัทเป็นสิ่งแรกที่คุณต้องทำ เริ่มต้นจากการศึกษาประวัติ วิสัยทัศน์ พันธกิจ และค่านิยมของบริษัท รวมไปถึงผลิตภัณฑ์หรือบริการหลัก ตลาดเป้าหมาย และคู่แข่งในอุตสาหกรรม ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณตอบคำถามได้อย่างเหมาะสมและแสดงให้เห็นว่าคุณให้ความสำคัญกับองค์กรนี้จริงๆ
ทำความเข้าใจตำแหน่งงานที่สมัคร
อ่าน Job Description ให้ละเอียด เข้าใจหน้าที่ความรับผิดชอบ คุณสมบัติที่ต้องการ และทักษะที่จำเป็น จากนั้นเตรียมตัวอย่างผลงานหรือประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องมาเล่าให้ฟัง การแสดงให้เห็นว่าคุณมีความสามารถตรงกับที่บริษัทต้องการจะทำให้คุณโดดเด่นกว่าผู้สมัครคนอื่น
เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เตรียมเอกสารทั้งหมดที่บริษัทขอมา เช่น Resume, Portfolio, ใบประกาศนียบัตร รวมถึงเอกสารสำรองเผื่อกรณีฉุกเฉิน การจัดเตรียมเอกสารเป็นระเบียบแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพและการวางแผนที่ดีของคุณ
การเตรียมคำตอบสำหรับคำถามยอดฮิต
"บอกเล่าเกี่ยวกับตัวคุณ"
เตรียมคำตอบที่กระชับ ประมาณ 2-3 นาที เล่าเรื่องราวของคุณแบบเชื่อมโยงตั้งแต่การศึกษา ประสบการณ์การทำงาน จนถึงเหตุผลที่สมัครงานตำแหน่งนี้ หลีกเลี่ยงการเล่าเรื่องส่วนตัวมากเกินไป แต่ให้มุ่งเน้นไปที่ความสามารถและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับงาน ที่สำคัญที่สุดคือ เน้นไปที่สิ่งที่คุณทำในช่วง 4-6 เดือนที่ผ่านมา นั่นคือส่วนที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่สิ่งที่คุณทำหลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย หรือว่าคุณเคยเป็นกัปตันทีมฟุตบอลหรือเปล่า
"ทำไมถึงสนใจงานตำแหน่งนี้"
แสดงให้เห็นว่าคุณได้ศึกษาข้อมูลบริษัทและตำแหน่งงานมาแล้ว เชื่อมโยงความสนใจของคุณกับโอกาสการเติบโตที่ตำแหน่งนี้มีให้ อธิบายว่าทักษะและประสบการณ์ของคุณจะเป็นประโยชน์กับบริษัทอย่างไร
"จุดแข็งและจุดอ่อนของคุณคืออะไร"
สำหรับจุดแข็ง ให้เลือกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับงานและยกตัวอย่างประกอบ สำหรับจุดอ่อน เลือกสิ่งที่ไม่ใช่ข้อกำหนดหลักของงาน และแสดงให้เห็นว่าคุณกำลังพัฒนาตัวเองในเรื่องนั้น
"คุณเห็นตัวเองในอีก 5 ปีข้างหน้าอย่างไร"
แสดงวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและสอดคล้องกับเส้นทางการเติบโตในบริษัท อธิบายว่าคุณต้องการพัฒนาทักษะใดบ้าง และจะสร้างคุณค่าให้กับองค์กรอย่างไร
การแต่งกายและการนำเสนอตัว
เลือกชุดให้เหมาะกับวัฒนธรรมบริษัท
ศึกษาว่าบริษัทมีการแต่งกายแบบไหน หากไม่แน่ใจ ควรเลือกแต่งกายแบบ Business Professional เสื้อเชิ้ต กางเกงสูท หรือกระโปรงสูท รองเท้าหนังที่สะอาด หลีกเลี่ยงเครื่องประดับมากเกินไปหรือน้ำหอมที่มีกลิ่นแรง
ภาษากายที่เหมาะสม
ฝึกจับมือที่แน่นแต่ไม่แรงเกินไป รักษาการสบตาอย่างเป็นธรรมชาติ นั่งตัวตรงแต่ไม่เกร็ง ใช้ท่าทางประกอบการพูดอย่างเหมาะสม ยิ้มให้เป็นธรรมชาติเพื่อสร้างบรรยากาศที่ดี
วันสัมภาษณ์

การจัดการเวลา
ไปถึงสถานที่สัมภาษณ์ก่อนเวลานัดประมาณ 10-15 นาที หากไปเร็วกว่านั้น ให้หาที่นั่งรอใกล้ๆ ก่อน การไปถึงตรงเวลาแสดงความเป็นมืออาชีพและความใส่ใจ
การรับมือกับความเครียด
ทำการหายใจลึกๆ เพื่อผ่อนคลาย ดื่มน้ำเปล่าก่อนเข้าสัมภาษณ์ คิดบวกและมั่นใจในความสามารถของตัวเอง จำไว้ว่าผู้สัมภาษณ์ก็ต้องการให้คุณประสบความสำเร็จเช่นกัน
การฟังและการตอบคำถาม
ฟังคำถามให้จบก่อนตอบ หากไม่เข้าใจ สามารถขอให้อธิบายเพิ่มเติมได้ ตอบคำถามอย่างกระชับและตรงประเด็น ใช้ตัวอย่างจากประสบการณ์จริงมาประกอบคำตอบ
การถามคำถามกลับ
เตรียมคำถามที่แสดงความสนใจและความเข้าใจเกี่ยวกับบริษัท เช่น "วัฒนธรรมการทำงานในทีมเป็นอย่างไร" หรือ "โอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาทักษะใหม่มีอะไรบ้าง" หลีกเลี่ยงการถามเรื่องเงินเดือนในรอบแรก
ถามว่า “ความสำเร็จใน 3 เดือนแรก” “6 เดือน” หรือ 1 ปี เป็นอย่างไรบ้าง? คำถามนี้จะทำให้ผู้สัมภาษณ์รู้สึกว่าคุณเป็นคนวางแผนและจริงจังในการสร้างผลงานที่วัดผลได้ และตัวคุณก็จะได้รู้ถึงความคาดหวังจากผู้ที่คุณจะร่วมงานด้วย
การติดตามผลหลังสัมภาษณ์
ส่ง Thank You Email
ส่งอีเมลขอบคุณภายใน 24 ชั่วโมงหลังสัมภาษณ์ แสดงความขอบคุณสำหรับเวลาและโอกาส ย้ำความสนใจในตำแหน่งงาน และเสริมประเด็นที่คิดว่าตัวเองตอบได้ไม่ดีพอในระหว่างสัมภาษณ์
การรอผลและติดตาม
หากบริษัทไม่ได้แจ้งกรอบเวลาการตัดสินใจ สามารถสอบถามได้ หากเลยเวลาที่บอกไว้ ให้รออีก 3-5 วันทำการแล้วค่อยติดตามด้วยการโทรศัพท์หรือส่งอีเมล
เคล็ดลับพิเศษ
การเตรียมตัวสำหรับสัมภาษณ์แบบออนไลน์
ตรวจสอบเทคโนโลยีล่วงหน้า ทดสอบอินเทอร์เน็ต กล้อง ไมโครโฟน เลือกพื้นหลังที่เหมาะสม หาสถานที่ที่เงียบและมีแสงสว่างดี แต่งกายให้เหมาะสมเหมือนการสัมภาษณ์แบบออฟไลน์
การจัดการความผิดพลาด
หากตอบคำถามผิดหรือไม่ดีพอ สามารถขอแก้ไขได้โดยพูดว่า "ขออนุญาตเสริมเรื่องที่เพิ่งคุยกัน" แสดงความซื่อสัตย์และความกล้าที่จะยอมรับข้อผิดพลาด
การแสดงความกระตือรือร้น
แสดงความสนใจในงานด้วยการถามคำถามที่มีคุณภาพ แสดงความคิดเห็นเชิงบวกต่อโอกาสการทำงาน และแสดงให้เห็นว่าคุณได้ทำการบ้านมาอย่างดี เช่น ยกตัวอย่างว่าคุณสามารถใช้ความสามารถของคุณพัฒนาสินค้า หรือบริการขององค์กรได้อย่างไรบ้าง อย่างนี้ผู้สัมภาษณ์จะเห็นภาพชัดขึ้นถึงคุณค่าที่คุณสามารถเข้ามาเพิ่มให้กับองค์กร
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
อย่าไปถึงช้ากว่าเวลานัด อย่าใช้โทรศัพท์ระหว่างสัมภาษณ์ อย่าพูดในเชิงลบเกี่ยวกับนายจ้างเดิม อย่าโกหกหรือขยายความจริง อย่าถามเรื่องเงินเดือนหรือสวัสดิการในรอบแรก และอย่าแสดงท่าทีที่ดูไม่สนใจหรือเบื่อหน่าย
อย่าหายตัวไปโดยไม่แจ้ง การไม่ไปตามนัดสัมภาษณ์โดยไม่แจ้งบริษัทที่นัดสัมภาษณ์ ต่อให้คุณได้งานแล้ว ก็ควรแจ้งเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาทและทำให้ทางบริษัทเสียเวลา อย่างน้อยก็ควรส่งอีเมลแจ้ง ใครจะไปรู้ว่าคุณอาจโดนติดบัญชีดำของ HR และอาจเสียโอกาสในอนาคต

บทสรุป
การเตรียมตัวสัมภาษณ์ที่ดีต้องใช้เวลาและความพยายาม แต่จะช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จอย่างมาก จำไว้ว่าการสัมภาษณ์เป็นการสื่อสารสองทาง ทั้งคุณและบริษัทต่างก็กำลังประเมินกันว่าเหมาะสมกันหรือไม่ การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยให้คุณมั่นใจและแสดงศักยภาพที่แท้จริงของตัวเองได้
ความสำเร็จในการสัมภาษณ์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับโชคเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการเตรียมตัวที่ดี ความมั่นใจในตัวเอง และการแสดงออกที่เหมาะสม ขอให้คุณโชคดีกับการสัมภาษณ์งานและได้งานในฝันตามที่หวังไว้
อยากติดตามบทความความรู้เกี่ยวกับภาษี เคล็ดลับต่างๆ สำหรับพนักงานและผู้ประกอบการ รวมทั้งเรื่องการพัฒนาทรัพยากรบุคคลได้ที่ ByteHR หรือถ้าคุณอยากเริ่มใช้โปรแกรม HR แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มยังไงดี หรือฟังก์ชันต่างๆ จะตอบโจทย์บริษัทคุณมั้ย ลองปรึกษา ByteHR ฟรีได้ที่ 02 026 3297 หรือส่งอีเมลมาที่ sales@byte-hr.com