5 สูตร วิธีคำนวณการคิดโบนัสพนักงานและแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง

โบนัสเป็นเครื่องมือสำคัญที่องค์กรใช้เพื่อจูงใจและรักษาพนักงานที่มีผลงานดี แต่การคิดโบนัสให้เป็นธรรมและสอดคล้องกับกฎหมายต้องอาศัยความเข้าใจที่ถูกต้อง บทความนี้จะอธิบายวิธีการคิดโบนัสอย่างครบถ้วน
โบนัสคืออะไร?
โบนัส คือ เงินรางวัลหรือผลตอบแทนพิเศษที่นายจ้างจ่ายให้พนักงานเพิ่มเติมจากเงินเดือนประจำ โดยมักจ่ายตามผลการดำเนินงานของบริษัทหรือผลงานของพนักงาน โบนัสไม่ใช่สิทธิตามกฎหมายแรงงาน แต่เป็นสวัสดิการที่นายจ้างมอบให้ตามดุลยพินิจ
ประเภทของโบนัส
1. โบนัสประจำปี - จ่ายปีละครั้งตามผลประกอบการและผลงานในรอบปี
2. โบนัสตามผลงาน - จ่ายตามการบรรลุเป้าหมายของพนักงาน
3. โบนัสพิเศษ - จ่ายในโอกาสพิเศษหรือเพื่อรักษาพนักงานที่มีความสามารถ
4. โบนัสรายไตรมาส - จ่ายทุก 3 เดือนเพื่อกระตุ้นแรงจูงใจสม่ำเสมอ
สูตรการคิดโบนัสแบบต่างๆ
สูตรที่ 1: การคิดโบนัสแบบเท่ากัน
โบนัส = เงินเดือน × จำนวนเดือนที่จ่าย
ตัวอย่าง: เงินเดือน 30,000 บาท จ่าย 2 เดือน = 60,000 บาท
สูตรที่ 2: การคิดโบนัสตามระดับตำแหน่ง
ระดับ | สัดส่วน | เงินเดือน | โบนัส |
ผู้บริหาร | 4 เดือน | 80,000 | 320,000 |
หัวหน้า | 3 เดือน | 50,000 | 150,000 |
พนักงาน | 2 เดือน | 30,000 | 60,000 |
สูตรที่ 3: การคิดโบนัสตามผลประเมิน
โบนัส = เงินเดือน × ฐานโบนัส × ผลประเมิน (%)
ตัวอย่าง: เงินเดือน 40,000 บาท, ฐาน 3 เดือน, ผลประเมิน 90% = 40,000 × 3 × 0.9 = 108,000 บาท
สูตรที่ 4: การคิดโบนัสตามกำไรบริษัท
โบนัสแต่ละคน = (โบนัสรวม × เงินเดือนพนักงาน) ÷ เงินเดือนรวมทั้งบริษัท
ตัวอย่าง: กำไร 10 ล้านบาท, จัดสรร 10% = โบนัสรวม 1 ล้านบาท จากนั้นแบ่งตามสัดส่วนเงินเดือน
สูตรที่ 5: การคิดโบนัสแบบผสม
ผสมผลงานส่วนตัวและผลงานบริษัท
โบนัส = เงินเดือน × [(ฐาน × 50% × ผลบริษัท) + (ฐาน × 50% × ผลบุคคล)]
ตัวอย่าง: เงินเดือน 35,000 บาท, ฐาน 3 เดือน, ผลบริษัท 85%, ผลบุคคล 95% = 35,000 × [(3 × 0.5 × 0.85) + (3 × 0.5 × 0.95)] = 94,500 บาท

การปรับโบนัสตามอายุงาน
โบนัส = เงินเดือน × ฐานโบนัส × (วันทำงานจริง ÷ 365)
ตัวอย่าง: พนักงานทำงาน 184 วัน, เงินเดือน 30,000 บาท, โบนัส 2 เดือน = 30,000 × 2 × (184 ÷ 365) = 30,240 บาท
ข้อพิจารณาทางกฎหมาย
1. โบนัสไม่ใช่สิทธิตามกฎหมาย - นายจ้างไม่บังคับต้องจ่ายหากไม่มีข้อตกลง
2. ข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร - หากระบุในสัญญา นายจ้างต้องจ่ายตามที่ตกลง
3. การหักภาษี - โบนัสต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายตามอัตราก้าวหน้า
4. กรณีลาออก - สิทธิ์รับโบนัสขึ้นกับนโยบายบริษัท ไม่มีกฎหมายบังคับ
ปัจจัยที่ควรพิจารณา
1. ความสามารถทางการเงิน - พิจารณากำไรและกระแสเงินสด
2. มาตรฐานอุตสาหกรรม - ศึกษาว่าคู่แข่งจ่ายอยู่ในระดับใด
3. ผลงานของพนักงาน - ประเมินจากเป้าหมายและคุณภาพงาน
4. ความเป็นธรรม - กำหนดเกณฑ์ชัดเจนและปฏิบัติสม่ำเสมอ
5. แรงจูงใจระยะยาว - กระตุ้นให้ทำงานต่อเนื่อง
ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง
1. ไม่มีเกณฑ์ชัดเจน - ทำให้พนักงานรู้สึกไม่เป็นธรรม
2. สื่อสารไม่ดี - พนักงานควรรู้วิธีคำนวณและเงื่อนไข
3. ไม่สอดคล้องกับผลงาน - ลดแรงจูงใจของพนักงานที่ทำงานดี
4. จ่ายเกินความสามารถ - อาจสร้างปัญหาการเงินในอนาคต
5. เปลี่ยนนโยบายบ่อย - ทำให้พนักงานขาดความมั่นใจ
เคล็ดลับการจัดการโบนัสอย่างมีประสิทธิภาพ
1. กำหนดนโยบายที่ชัดเจน - จัดทำเอกสารระบุวิธีคำนวณและเงื่อนไข
2. ใช้ระบบประเมินที่เป็นธรรม - วัดผลได้จริงและไม่ลำเอียง
3. สื่อสารสม่ำเสมอ - แจ้งความคืบหน้าและโอกาสได้รับโบนัส
4. พิจารณารางวัลหลากหลาย - นอกจากเงิน อาจมีวันหยุดพิเศษหรือการยกย่อง
5. ทบทวนเป็นประจำ - ประเมินประสิทธิผลและปรับให้เหมาะสม

การคิดโบนัสที่ดีต้องสมดุลระหว่างความยุติธรรม ความสามารถทางการเงิน และแรงจูงใจของพนักงาน หลักการสำคัญคือความโปร่งใส ความสม่ำเสมอ และการสื่อสารที่ชัดเจน เมื่อออกแบบระบบโบนัสที่ดี คุณจะรักษาพนักงานที่มีความสามารถ สร้างแรงจูงใจ และพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่งในระยะยาว
หากองค์กรของคุณต้องการระบบ HR & Payroll ที่คำนวณสิทธิการลาและค่าจ้างได้อัตโนมัติตามกฎหมายใหม่ ByteHR พร้อมช่วยให้การจัดการง่ายขึ้นและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับพนักงานของคุณ หรือถ้าคุณอยากเริ่มใช้โปรแกรม HR แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มยังไงดี หรือฟังก์ชันต่างๆ จะตอบโจทย์บริษัทคุณไหม ลองปรึกษา ByteHR ฟรีได้ที่ 02 026 3297 หรือส่งอีเมลมาที่ sales@byte-hr.com


