การปฏิวัติของ AI ในการบริหารทรัพยากรบุคคล: แยกแยะความจริงและข่าวลือ
หลายเดือนที่ผ่านมา ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI (Artificial Intelligence) กลายเป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสนใจ โดยเฉพาะในวงการทรัพยากรบุคคลหรือ HR เราในฐานะผู้ให้บริการโปรแกรมสำหรับ HR ในประเทศไทย ได้รับฟังความกังวลจากลูกค้าหลายรายเกี่ยวกับประเด็นที่ AI อาจเข้ามาแทนที่งานของมนุษย์ วันนี้เราจึงจะมาคลายความกังวลและให้มุมมองที่เป็นกลางเกี่ยวกับบทบาทของ AI ในฝ่าย HR
ก่อนอื่น ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า AI ไม่ใช่สิ่งใหม่ในอุตสาหกรรมของเรา ในความเป็นจริง เราใช้ AI ในรูปแบบต่าง ๆ มาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว จากนั้นจึงมีการพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็นรูปแบบที่ซับซ้อนขึ้น ตั้งแต่แชทบอทที่ตอบคำถามเบื้องต้นไปจนถึงระบบอัตโนมัติที่ช่วยให้การทำงานลื่นไหลขึ้น AI เป็นเหมือนผู้ช่วยที่ทำงานอยู่เบื้องหลังทุกคนในฝ่าย HR มาโดยตลอด เครื่องมือซอฟต์แวร์ที่คุณใช้อยู่ในทุกวันนี้ เช่น ระบบ CRM, ระบบ ATS และ ซอฟต์แวร์ HRIS ก็มีการนำ AI มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเช่นกัน
ต่อไปนี้คือตัวอย่างกระบวนการที่บุคลากรฝ่าย HR สามารถใช้ AI เข้ามาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้:
1. การทำบัญชีเงินเดือน
- AI สามารถตรวจจับรูปแบบที่ผิดปกติในค่าล่วงเวลาหรือค่าใช้จ่ายได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งช่วยป้องกันข้อผิดพลาดหรือการทุจริต
- AI สามารถทำนายความผันผวนของเงินเดือนตามฤดูกาล ช่วยในการวางแผนงบประมาณและการคาดการณ์
2. การจ้างงาน
- เครื่องมือ AI สามารถสแกนประวัติและจับคู่ผู้สมัครกับคุณสมบัติของงานเข้าด้วยกัน ช่วยประหยัดเวลาในการคัดเลือกเบื้องต้น
- แชทบอทสามารถตอบคำถามเบื้องต้นของผู้สมัคร จัดตารางสัมภาษณ์ และให้ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับบริษัทและตำแหน่งงาน
3. การต้อนรับพนักงานใหม่
- AI สามารถปรับแต่งเอกสารการต้อนรับพนักงานใหม่ให้เหมาะสมกับบทบาทและประวัติของพนักงาน
- การใช้ AI เป็นผู้ช่วยในการแนะนำพนักงานใหม่เกี่ยวกับเอกสารและโมดูลการฝึกอบรมพื้นฐาน
4. การบริหารผลการปฏิบัติงาน
- AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลผลการปฏิบัติงานเพื่อระบุแนวโน้มและให้ข้อมูลเชิงลึกแก่ผู้จัดการ
- AI สามารถส่งการแจ้งเตือนอัตโนมัติสำหรับการประเมินผลการปฏิบัติงานและการตั้งเป้าหมาย
5. การเรียนรู้และพัฒนา AI
- สามารถแนะนำโปรแกรมฝึกอบรมตามบทบาท ทักษะ และความต้องการในการเติบโตทางอาชีพได้
- AI สามารถติดตามความคืบหน้าในการเรียนรู้และปรับระดับความยากของหลักสูตรให้เหมาะสม
ตัวอย่างเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า AI ช่วยยกระดับการทำงานของ HRด้วยโปรแกรมเงินเดือน โดยไม่ได้มาแทนที่บุคลากร มนุษย์นั้นยังคงมีความสำคัญในแง่ของการทำหน้าที่ตีความข้อมูลจาก AI และทำการตัดสินใจในขั้นสุดท้าย
ทำไมคนถึงกังวลเรื่อง AI มากเกินไป? ส่วนหนึ่งมาจากโมเดลธุรกิจของบริษัท Venture Capital ใน Silicon Valley ที่เน้นสร้างกระแสให้กับ “เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด” เพื่อดึงดูดเงินลงทุนจำนวนมาก เราเคยเห็นรูปแบบนี้มาก่อนแล้วในยุคดอทคอม เครือข่ายโซเชียลมีเดีย คริปโตเคอร์เรนซี และตอนนี้ก็คือ AI แต่คราวนี้ความสนใจมุ่งไปที่โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) ที่ได้รับความนิยมจากบริษัทอย่าง OpenAI
LLMs หรือโมเดลภาษาขนาดใหญ่ นับเป็นก้าวสำคัญของ Generative AI แต่หมายความว่าอย่างไร มาแยกแยะกัน:
AI คาดการณ์: เราใช้กันมานานในการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่เพื่อคาดการณ์ผลลัพธ์หรือแนวโน้มในอนาคต เหมือนการพยากรณ์อากาศสำหรับการตัดสินใจทางธุรกิจ
Generative AI: การสร้างเนื้อหาใหม่จากรูปแบบของข้อมูลที่มีอยู่ เหมือนศิลปินที่สร้างภาพวาดใหม่ในสไตล์ของศิลปินชื่อดังที่เคยศึกษา
LLMs: รูปแบบหนึ่งของ Generative AI คาดการณ์และสร้างข้อความเหมือนมนุษย์จากข้อมูลมหาศาลที่ได้เรียนรู้
เนื่องจากแอปพลิเคชันเหล่านี้พัฒนาอย่างรวดเร็ว จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องกังวล ประวัติศาสตร์ได้สอนเราว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีนั้นมักจะทำให้เรามีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ใช้ล้าสมัยลง เช่นเดียวกับการปฏิวัติอุตสาหกรรมที่ไม่ได้กำจัดแรงงานมนุษย์ แต่เปลี่ยนแปลงและขยายบทบาทของมนุษย์แทน ซึ่ง AI ก็พร้อมที่จะช่วยให้เราทำงานได้มากขึ้นด้วยทรัพยากรที่น้อยลง ส่งเสริมผลิตภาพทางเศรษฐกิจโดยรวม และสร้างบทบาทใหม่ ๆ ที่จะชัดเจนมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้หมายความว่าบริษัทต่าง ๆ ควรเร่งรีบนำ AI มาใช้โดยไม่พิจารณา แม้ว่าเทคโนโลยีนี้จะน่าประทับใจ แต่สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่ามูลค่าทางธุรกิจที่แท้จริงในแง่ของการใช้งานยังไม่ชัดเจน และเราจำเป็นต้องใช้งานอย่างระมัดระวัง ในโลกของ AI โดยเฉพาะในรูปแบบปัจจุบันนั้นยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ยังไม่มีเส้นทางที่ชัดเจนสำหรับการบูรณาการ และทิศทางการพัฒนาก็ยังไม่แน่นอน
สรุปแล้ว เราไม่จำเป็นต้องตกใจหรือ FOMO (Fear of Missing out)กลัวว่าจะตกเทรนด์ AI เป็นเครื่องมือที่เมื่อใช้ด้วยความรับผิดชอบก็จะเพิ่มความสามารถและทำให้การทำงานของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้น AI จึงไม่ใช่เรื่องของการมาแทนที่มนุษย์ แต่เป็นเรื่องของการเพิ่มศักยภาพและปลดปล่อยให้มนุษย์มุ่งเน้นไปที่งานที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะของมนุษย์ เช่น ความเห็นอกเห็นใจ ความคิดสร้างสรรค์ และการตัดสินใจที่ซับซ้อน
ในขณะที่เรากำลังก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลงนี้ ByteHR มุ่งมั่นที่จะนำเสนอโซลูชัน HR ที่รวม AI เข้ามาอย่างมีความรับผิดชอบ โดย AI นั้นเข้ามาส่งเสริม ไม่ใช่แทนที่บทบาทของมนุษย์ในฝ่าย HR นอกจากนี้เรายังสนับสนุนให้คุณติดตามความก้าวหน้าของ AI อยู่เสมอ พร้อมทั้งรับมือด้วยความใจเย็นและรอบคอบ
อย่าลืมว่าเป้าหมายของเทคโนโลยีในวงการ HR คือการทำให้งานง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้เราสามารถมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่สำคัญจริง ๆ นั่นคือการบริหารจัดการและพัฒนาบุคลากร AI เป็นเพียงเครื่องมือใหม่ล่าสุดอันเป็นผลจากการพัฒนาไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง หากใช้อย่างชาญฉลาด AI จะเป็นพันธมิตรที่ทรงพลังในเส้นทางอาชีพ HR ของคุณ