ทำไมระบบ CLOUD ถึงดีกว่า ON-PREMISE?
ในบทความที่แล้วเราได้เปรียบเทียบข้อดี-เสีย ระหว่างระบบคลาวด์และระบบแบบ On-Premise ให้ได้พิจารณากันไปเรียบร้อย คราวนี้เราจะมาเจาะลึกลงไปยิ่งขึ้นว่า ทำไมคุณถึงควรเลือกใช้คลาวด์กับระบบในบริษัทของคุณ
ระบบคลาวด์นั้นถือว่ามีความได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัดในเรื่องของพื้นที่จัดเก็บ เพราะบริษัทของคุณจะไม่ต้องซื้อพื้นที่และตู้เซิร์ฟเวอร์เพื่อจัดเก็บข้อมูลอีกต่อไป นอกจากนี้ระบบยังมีความยืดหยุ่น และปลอดภัย ทั้งยังช่วยลดความยุ่งยากในการบำรุงรักษาและการปรับปรุงระบบทำให้ประหยัดเวลา การลงทุนและทรัพยากรในการจัดการข้อมูลในองค์กร
นอกจากนี้ระบบยังมีการเก็บข้อมูลได้แบบเรียลไทม์จากอุปกรณ์ที่หลากหลายไม่ว่าจะจากสมาร์ทโฟน หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งใช้งานได้ ทุกที่ ทุกเวลา เพราะเหตุนี้ระบบคลาวด์จึงกลายเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับธุรกิจในหลายประเทศ ยกตัวอย่างเช่นในประเทศอังกฤษมีอัตราการใช้ระบบคลาวด์มากถึง 88% ในปี 2018
ในขณะที่ยังมีการถกเถียงถึงข้อดีและข้อเสียของทั้งสองระบบนี้ ก็มีอีกตัวเลือกหนึ่งซึ่งให้บริการร่วมทั้งสองระบบเข้าด้วยกันนั่นก็คือ Hybrid cloud
Hybrid cloud
เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของโซลูชันที่มีองค์ประกอบของรูปแบบการปรับใช้โมเดลไอทีประเภทต่างๆ ตั้งแต่ระบบ On-Premise จนถึงระบบคลาวด์แบบส่วนตัว (Private cloud) และระบบคลาวด์สาธารณะ (Public cloud) โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ไฮบริดขึ้นอยู่กับความพร้อมในการใช้งานของแพลตฟอร์มคลาวด์สาธารณะจากผู้ให้บริการที่เชื่อถือได้ระบบคลาวด์ส่วนตัวที่สร้างขึ้นแบบ On-Premise หรือผ่านผู้ให้บริการคลาวด์ส่วนตัวที่เป็นผู้ให้บริการ ผ่านระบบเชื่อมต่อกับ WAN ระหว่างคลาวด์และ On-Premise
แต่จุดอ่อนของระบบนี้คือเรื่องการรักษาความปลอดภัย เพราะโครงสร้างพื้นฐานของระบบมาจากการผสมผสานโครงสร้างพื้นฐานแบบสาธารณะ (Public) และแบบส่วนตัว (Private) บริษัทจำเป็นต้องมีแผนกไอทีที่อุทิศเวลาให้กับการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล รวมถึงบริษัทต้องมีการจัดการนโยบายการควบคุมข้อมูลที่เข้มงวด
ใครคือผู้ให้บริการคลาวด์
ผู้ให้บริการคลาวด์เป็น บริษัท ที่ให้บริการการประมวลผลแบบคลาวด์สำหรับธุรกิจหรือบุคคลรวมถึง
Infrastructure as a service (IaaS)
การให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที ซึ่งมีการจัดเก็บข้อมูลขององค์กร โดยรองรับการใช้งานซอร์ฟแวร์และแอปพลิเคชันอย่าง Microsoft Azure, Dropbox, Google Drive for business, Amazon Web Services
Software as a service (SaaS)
การให้บริการซอร์ฟแวร์และแอปพลิเคชันแบบเช่าใช้ผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยคิดค่าบริการตามการใช้งาน เช่น Microsoft Office 365
Platform as a service (PaaS)
การให้บริการด้าน Platform เหมาะสำหรับ Developer ที่พัฒนาซอฟแวร์และแอปพลิเคชัน เช่น Database Server, Web Application เป็นต้น
แล้วอะไรล่ะ ที่เหมาะกับธุรกิจของเรา?
ไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิดสำหรับระบบคลาวด์ เพราะลูกค้าแต่ละคนล้วนแตกต่างกันและมีข้อกำหนดของรูปแบบการทำงานและกลยุทธ์ที่ต่างกัน ก่อนที่จะเลือกว่าจะใช้ระบบคลาวด์หรือ On-Premise บริษัทควรตอบคำถามต่อไปนี้ให้ได้ก่อน
CapEx vs OpEx – คุณสามารถจ่ายค่าธรรมเนียมล่วงหน้าตามที่ระบบ On-Premise ระบุไว้ได้หรือไม่ (จากบทความที่แล้ว อย่าลืมว่าการใช้ระบบแบบ On-Premise จะมีค่าใช้จ่ายยิบย่อยในการเปลี่ยนแปลงมากมาย)
เพราะฉะนั้นควรคำนวนงบในส่วนนี้โดยละเอียด หากคุณต้องการใช้ระบบ On-Premise มากกว่า Cloud
ระบบ Backup and disaster recovery – คุณมีเครื่องมือที่จะรับมือกับระบบรักษาความปลอดภัยแบบสูงสุดอย่างไรบ้างถ้าไม่ใช้ระบบคลาวด์ เพราะในระบบ On-Premise หากข้อมูลในตู้เซิร์ฟเวอร์เสีย หรือสถานที่จัดเก็บตู้เกิดไฟไหม้หรืออุบัติภัยเกิดขึ้น ข้อมูลทั้งหมดก็จะสูญไปและกู้คืนได้ยาก
รอบการอัปเดตข้อมูล – บริษัทควรคำนึงถึงการเข้าถึงของข้อมูลล่าสุดและการอัปเดตข้อมูลที่ใช้งานร่วมกันได้ ซึ่งในส่วนนี้คลาวด์จะเป็นตัวเลือกที่ง่ายต่อการอัปเดตที่สุด เพราะการใช้ระบบคลาวด์จะช่วยลดการใช้กระดาษและขั้นตอนแบบ Manual ที่กินเวลาโดยใช่เหตุ
ในซอฟต์แวร์ของ ByteHR เองนั้นได้ใช้ระบบคลาวด์ของ Microsoft Azure ซึ่งเป็นระบบคลาวด์ที่บริษัทชั้นนำทั่วโลกต่างใช้ เพราะความน่าเชื่อถือ และความปลอดภัยสูง ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลภายในของบริษัทเช่น ข้อมูลเงินเดือนจะไม่มีการรั่วไหล เพราะระบบของ ByteHR มีความสามารถดังต่อไปนี้
- สามารถตั้งค่าผู้ที่เข้าดูข้อมูลได้ โดยจะผ่านการยืนยันจาก HR ก่อนจะเข้าไปดูข้อมูลได้
- มี Template Excel ที่สามารถ import ข้อมูลเข้าระบบ On cloud ได้อัตโนมัติ ทำให้การอัปเดตข้อมูลเป็นเรื่องง่ายกว่าเดิม และลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น
- ระบบมีการอัปเดตข้อมูลประกันสังคมแบบ Real-time
หากคุณยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นใช้โปรแกรมhr หรือโปรแกรม บันทึก เวลา ทํา งานของพนักงานบน Cloud ดีรึเปล่า และฟังก์ชันต่าง ๆจะตอบสนองความต้องการใช้งานของบริษัทคุณหรือไม่
คุณสามารถปรึกษา ByteHR ฟรีได้ทาง 02 026 3297 หรือติดต่อ sales@bytehr.com
Image credit : www.pixabay.com