รวม 5 ความท้าทายใหม่สำหรับฝ่าย HR ที่ต้องรับมือในปี 2024
เมื่อยุคสมัยเกิดการเปลี่ยนแปลง ผู้คนย่อมต้องรู้จักการปรับตัวเพื่อให้เข้ากับเทรนด์ กระแสเหล่านั้นอยู่เสมอ การทำงานในตำแหน่ง HR หรือ ฝ่ายบริหารงานบุคคลเองก็เช่นกัน ไม่ว่าคุณจะมีประสบการณ์มากแค่ไหนแต่กับยุค 2024 นี้ ก็ยังมีเรื่องอันแสนท้าทายให้ต้องรับมืออยู่ตลอด และนี่คือ 5 เรื่องที่ HR ทุกคนต้องเตรียมพร้อมเพื่อการเติบโตขององค์กร และยังลดความเครียด ความเหนื่อยล้าของการทำงานได้อีกด้วย อยากรู้มีเรื่องไหนบ้างตาม Byte HR มาได้เลย
รวม 5 ความท้าทายที่ฝ่าย HR ต้องรับมือในปี 2024
ความท้าทายเป็นสิ่งที่สามารถพบเจอได้ตลอด ยิ่งถ้าเรื่องการทำงานด้วยแล้วหากคุณอยู่ในตำแหน่ง HR บ่อยครั้งสิ่งรอบตัวที่เปลี่ยนไป เช่น พฤติกรรมการใช้ชีวิต เทคโนโลยี เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ฯลฯ ก็ส่งผลให้ต้องเจอเรื่องราวอันแสนท้าทายต่ออาชีพและหน้าที่การงานอยู่เสมอ ซึ่งทั้ง 5 เรื่องที่จะบอกต่อไปนี้ HR ทุกคนต้องเตรียมรับมือให้ดีเพื่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพทั้งต่อตนเอง พนักงาน และองค์กร
1. ลักษณะการทำงานแบบ Hybrid
จากสถานการณ์โรคระบาดเมื่อ 3-4 ปีก่อนหน้า เดิมทีการทำงานของหลายองค์กรต้องปรับสู่รูปแบบ Work From Home แต่เมื่อการระบาดลดน้อยลง ทุกอย่างเริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติ แต่หลายองค์กรรวมถึงพนักงานจำนวนมากมองว่าการทำงานที่บ้านก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ช่วยเซฟค่าใช้จ่ายได้ในระดับหนึ่ง ไม่ต้องเครียดกับการเดินทาง ทว่าการเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศก็ยังเป็นเรื่องสำคัญเพื่อความคล่องตัว ด้วยเหตุนี้การทำงานแบบ Hybrid หมายถึง การทำงานแบบผสมผสานทั้งในและนอกออฟฟิศจึงเกิดขึ้น ซึ่ง HR ก็ต้องรับมือกับการเช็กเวลาเข้า-ออกงาน และอื่น ๆ วิธีปรับตัวส่วนใหญ่จึงมักนิยมเลือกใช้โปรแกรม HR เข้ามาช่วยเหลือให้การลงเวลาออนไลน์ของพนักงานถูกต้อง แม่นยำ นำข้อมูลไปใช้วางแผนด้านต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. การเติบโตของเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดด
เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมานานมากในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมากกับการเติบโตและพัฒนาของเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดด HR จึงต้องรู้จักนำเอาความทันสมัยเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อต่อยอดการทำงานของตนเองให้มีคุณภาพ ลดภาระหน้าที่ ความเหนื่อยล้า มีเวลาทำงานส่วนอื่นเพิ่มขึ้น เช่น การใช้โปรแกรมเงินเดือนเข้ามาคำนวณเงินเดือนแทนการต้องนั่งไล่เรียงผ่าน Excel ด้วยตนเอง สะดวก ประหยัดเวลา ลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นให้เหลือน้อยมาก
3. ความภักดีต่อองค์กรลดลง พนักงานลาออกบ่อยขึ้น
นี่คือความท้าทายที่เกิดจาก Mindset ของคนยุคใหม่ที่เปลี่ยนไป พวกเขามองว่าหากทำงานที่ใดแล้วไม่ตรงกับความคาดหวัง บรรยากาศไม่ดี งานหนักเกินไป ก็พร้อมลาออกเพื่อหาที่ทำงานใหม่อยู่ตลอดเวลา ความภักดีต่อองค์กรแบบคนรุ่นก่อนที่อยู่กันมาระดับ 10-20 ปี มีน้อยมาก เกิดการลาออกบ่อยขึ้น สิ่งที่ HR จำเป็นต้องรู้นอกจากค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของการลาออกเหล่านั้นแล้วนั่นคือ การหาวิธี หรือปรับวัฒนธรรมองค์กรใหม่เพื่อให้พนักงานทำงานด้วยยาวนานมากขึ้น ไปจนถึงการหาช่องทางคัดเลือกพนักงานใหม่ที่พร้อมทำงานร่วมกับองค์กร เป็นต้น
4. การปลอมประวัติพนักงานเพื่อสมัครงาน
ด้วยความทันสมัยของเทคโนโลยีแม้มีประโยชน์ในหลายด้านแต่บ่อยครั้งหากนำมาใช้กับเรื่องไม่ดีก็ส่งผลเสียต่อหลายฝ่าย ผู้สมัครงานบางคนพยายามปลอม หรือเปลี่ยนประวัติตนเองเพื่อให้มีโปรไฟลที่ดี รับเงินเดือนสูง หรือหลบหลีกการพบเจอประวัติอาชญากรรม พอ HR คัดเลือกเข้ามาจริงจึงมีผลงานตรงข้ามกับประวัติ นี่จึงเป็นอีกความท้าทายที่ HR ต้องสรรหาวิธีคัดเลือก ทดสอบทักษะความรู้ของการทำงานก่อนตัดสินใจรับเข้าทำงาน หรืออนุมัติให้ผ่านการทดลองงาน
5. ระดับการศึกษา หรือชื่อสถาบันการศึกษาไม่ได้บ่งบอกคุณภาพเสมอไป
แม้การศึกษาในระดับสูงยังคงเป็นเรื่องสำคัญมาก แต่ยุคที่ทุกอย่างสามารถค้นหาข้อมูลและเรียนรู้ด้วยตนเองได้ง่ายมากขึ้น การรับสมัครพนักงาน หรือการคัดเลือกพนักงานของ HR จึงไม่ได้จำกัดแค่วุฒิการศึกษา ระดับการศึกษาสูงสุด หรือชื่อสถาบันการศึกษาเสมอไป แต่ต้องประเมินจากประสบการณ์ วุฒิภาวะ ผลคะแนนที่ทดสอบออกมา เพื่อตัดสินใจว่านี่คือบุคลากรที่พร้อมทำงานร่วมกับองค์กรมากน้อยแค่ไหน
สรุป
เมื่อโลกยุค 2024 เปลี่ยนไปทั้งรูปแบบการทำงาน เทคโนโลยี การลาออกและการค้นหาพนักงานใหม่ ดังนั้น HR ก็ต้องเรียนรู้ความท้าทายเหล่านี้เพื่อปรับตัวและช่วยให้การทำงานมีผลลัพธ์น่าพึงพอใจสูงสุดต่อทั้งตนเอง พนักงาน และองค์กร ซึ่งหนึ่งในตัวช่วยชั้นยอดที่อยากแนะนำคือ โปรแกรม HR จาก Byte HR ที่จะช่วยให้การบริหารทรัพยากรบุคคลในองค์กรเป็นเรื่องง่ายขึ้น ทั้งการทำเงินเดือน การเช็กเวลาเข้า-ออก การคัดเลือกพนักงาน การวางแผนทำงานให้กับพนักงาน และอีกหลากฟีเจอร์ ตอบโจทย์ยุคสมัยที่กำลังเกิดขึ้น พร้อมช่วยลดภาระหน้าที่ของ HR ให้เหนื่อยน้อยลงด้วย