ลดหย่อนภาษี พร้อมรักษ์โลกไปพร้อมกันด้วย Thailand ESG และ Easy E-Receipt
ช่วงต้นปีแบบนี้หลาย ๆ คนคงกำลังเตรียมจัดการเรื่องภาษีกันอยู่ และคำนวณค่าลดหย่อนภาษีต่าง ๆ วันนี้ ByteHR จะมาพูดถึงอีกสองช่องทางที่สามารถช่วยลดหย่อนภาษีพร้อมรักษ์โลกไปพร้อมกันด้วย Thailand ESG ที่ช่วยลดหย่อนเมื่อลงทุน และ Easy E-Receipt ที่ช่วยลดหย่อนเมื่อคุณซื้อสินค้าหรือบริการจากร้านค้าที่จดทะเบียนถูกต้องกับกรมสรรพากร
Thailand ESG คือ อะไร
Thailand ESG Fund : Thai ESG คือ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน ซึ่งรัฐบาลได้ออกมาตรการทางการเงินกว่า 450,000 ล้านบาท ลงทุนเศรษฐกิจสีเขียว -Thailand Green Taxonomy ส่งเสริมให้เกิดการลงทุนเพื่อความยั่งยืน ขับเคลื่อนสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ESG (Environmental, Social and Governance)
สำหรับมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทยมีรายละเอียด ดังนี้
1.ให้ผู้มีเงินได้มีสิทธิหักลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน ในอัตราไม่เกินร้อยละ 30 ของเงินได้พึงประเมิน เฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 100,000 บาท สำหรับปีภาษี โดยผู้มีเงินได้ต้องถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 8 ปีนับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุน แต่ไม่รวมถึงกรณีทุพพลภาพหรือตาย
ทั้งนี้ สำหรับการซื้อหน่วยลงทุนตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 (วันที่คณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติหลักการ) ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2575 และต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด
2.ยกเว้นให้ผู้มีเงินได้ไม่ต้องนำเงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ได้รับเนื่องจากการขายหน่วยลงทุนคืนให้แก่กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนมารวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เฉพาะกรณีที่เงินหรือผลประโยชน์ดังกล่าวคำนวณมาจากค่าซื้อหน่วยลงทุนที่ได้รับสิทธิตามข้อ 1 และผู้มีเงินได้ถือหน่วยลงทุนมาแล้วไม่น้อยกว่า 8 ปีนับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุน แต่ไม่รวมถึงกรณีทุพพลภาพหรือตาย
สรุป Thailand ESG
ระยะเวลาการลงทุน : ถือลงทุน 8 ปีนับจากวันที่ซื้อ ไม่บังคับซื้อทุกปี
สินทรัพย์ที่ลงทุนได้ : หุ้นไทยและตราสารหนี้ไทยที่เข้าหลักเกณฑ์ ESG
สิทธิประโยชน์ทางภาษี : ไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี และไม่เกิน 100,000 บาท
กองทุน Thai ESG เหมาะกับใคร
คนที่มีเป้าหมายการลงทุนให้เงินเติบโตในระยะยาว
มองเห็นโอกาสเติบโตในหุ้นยั่งยืน และธุรกิจที่ดำเนินงานตามหลัก ESG ในประเทศไทย
ต้องการลดหย่อนภาษีด้วยการลงทุน แต่ไม่อยากซื้อ RMF เพราะใช้เวลานานกว่าจะขายได้ สำหรับคนที่อายุน้อยกว่า 45 ปี และไม่อยากซื้อ SSF เพราะต้องใช้เวลาถือถึง 10 ปี
ต้องการวงเงินลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม ซึ่งที่มีอยู่เดิมยังไม่หนำใจ เนื่องจากเป็นคนที่ฐานภาษีสูง เช่น 20% ขึ้นไป หรือลดหย่อนภาษีจากการซื้อ SSF และ RMF จนเต็มสิทธิ์แล้ว
อุตสาหกรรมพลังงานกำลังมาแรงและเป็นที่จับตามอง Thai ESG ก็เป็นอีกหนึ่งทางสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในธุรกิจสีเขียวและได้สิทธิลดหย่อนเพิ่มเติม ทั้งนี้ผู้ลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน
ลดหย่อนภาษีได้มากขึ้นอีกกับ Easy E-Receipt
Easy E-Receipt เป็นโครงการของรัฐบาลที่ช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ประกอบการและร้านค้าที่เข้าร่วม ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ให้ประชาชนที่ซื้อสินค้าหรือบริการที่มีมูลค่าไม่เกิน 5 หมื่นบาท สามารถนำใบกำกับภาษีดังกล่าวมาลดหย่อนภาษีได้ (เฉพาะในราชอาณาจักรไทยเท่านั้น)
เงื่อนไขที่ควรรู้
เอกสาร e-Tax Invoice & e-Receipt ที่ผู้ประกอบการออกให้นั้นจะต้องมีคำว่า “เอกสารนี้ได้จัดทำและส่งข้อมูลให้แก่กรมสรรพากรด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์” บนเอกสารร่วมด้วย
ใบกำกับภาษี (e-Tax Invoice) และใบรับ (e-Receipt) มีข้อดีกว่าใบกำกับภาษีและใบรับในรูปแบบกระดาษ คือ ไม่ต้องเก็บรักษาใบกำกับภาษีและไม่ต้องจัดส่งให้กรมสรรพากรในการเข้าร่วมมาตรการ
Easy e-Receipt สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้ช่วงไหนบ้าง?
ช่วงเวลาที่สามารถใช้สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีในปีภาษี 2567 ตามที่กรมสรรพากรกำหนด คือ การซื้อสินค้าหรือบริการนั้น ๆ จะต้องอยู่ในช่วงระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2567 เท่านั้น ทั้งนี้หากเป็นค่าบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการระยะยาว ซึ่งมีระยะเวลาเริ่มต้นก่อนวันที่ 1 มกราคม หรือสิ้นสุดหลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 จะไม่สามารถนำมาลดหย่อนได้
ประเภทสินค้าที่นำมาลดหย่อนภาษีได้ และไม่ได้
สำหรับผู้ที่มีสิทธิ์ใช้ Easy e-Receipt คือ ผู้มีเงินได้ ที่เป็นบุคคลธรรมดาเท่านั้น ทั้งนี้การใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษีนั้น ไม่ใช่การนำยอดซื้อทั้งหมดไปลดหย่อนภาษี แต่จะเป็นการลดหย่อนจากจำนวนเงินได้พึงประเมินสุทธิ ที่ต้องนำไปคำนวณร่วมกับฐานภาษีแบบขั้นบันไดตามตารางด้านล่างนี้
หากคุณมองหาตัวช่วยที่จะช่วยจัดการ การทำเงินเดือนในองค์กร ByteHR ก็มีโปรแกรมคำนวณเงินเดือน ที่จะช่วยให้แผนกทรัพยากรบุคคลของคุณทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและรวดเร็วมากกว่าเดิม ทั้งคำนวณภาษีโดยนำเงินได้พึงประเมินและสร้างรายงาน ภงด.1 และ ภงด.1ก ฯลฯ แต่หากคุณยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นใช้โปรแกรมสำหรับ HR อย่างไรและฟังก์ชันต่างๆจะตอบสนองความต้องการใช้งานของบริษัทคุณหรือไม่ ลองปรึกษา ByteHR ได้ฟรีทาง 02 026 3297 หรือติดต่อ sales@byte-hr.com