ความแตกต่างระหว่างแบบภาษีต่างๆ ที่ผู้ประกอบการควรรู้
ในฐานะผู้ประกอบการ การเข้าใจความแตกต่างระหว่างแบบภาษีต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการบริหารธุรกิจให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการทำเงินเดือนให้พนักงานเช่นกัน บทความนี้ ByteHR จะอธิบายความแตกต่างระหว่างแบบ ภ.ง.ด.1, ภ.พ.30 (ขาเข้าและขาออก), ภ.ง.ด.91, ภ.ง.ด.3, ภ.ง.ด.51 และ ภ.พ.36 ซึ่งเป็นแบบภาษีที่ผู้ประกอบการมักต้องเกี่ยวข้อง
1. ภ.ง.ด.1 (PND1) ภ.ง.ด.1 คือแบบยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย สำหรับการจ่ายเงินเดือน ค่าจ้าง และผลประโยชน์อื่นๆ ให้แก่พนักงาน
ผู้ยื่น: นายจ้างหรือผู้จ่ายเงินได้
กำหนดยื่น: ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไปหลังจากเดือนที่มีการจ่ายเงินได้
ประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการ: ช่วยในการบริหารจัดการภาษีของพนักงานและปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน
ByteHR มีโปรแกรมสำหรับ HR ที่หลากหลาย ซึ่งเป็นโปรแกรม HR On Cloud ที่มีฟังก์ชั่นจัดการข้อมูลพนักงาน โปรแกรมคำนวณเงินเดือนออนไลน์ และบริหารจัดการภาษีของพนักงานพร้อมกับแบบฟอร์มทางการ และสามารถนำส่งสรรพากรได้อย่างง่ายดาย
2. ภ.พ.30 (PP30) ภ.พ.30 เป็นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ซึ่งมีทั้งขาเข้าและขาออก
ขาเข้า: ภาษีที่ผู้ประกอบการจ่ายเมื่อซื้อสินค้าหรือบริการ
ขาออก: ภาษีที่ผู้ประกอบการเรียกเก็บจากลูกค้าเมื่อขายสินค้าหรือบริการ
ผู้ยื่น: ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
กำหนดยื่น: ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป
ประโยชน์: ช่วยในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มที่ต้องนำส่งหรือขอคืน
3. ภ.ง.ด.91 (PND91) ภ.ง.ด.91 คือแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผู้มีเงินได้จากการจ้างแรงงานเพียงประเภทเดียว
ผู้ยื่น: บุคคลธรรมดาที่มีเงินได้จากการจ้างแรงงานเท่านั้น
กำหนดยื่น: ภายในเดือนมีนาคมของปีถัดไป
ประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการ: แม้จะไม่เกี่ยวข้องโดยตรง แต่การเข้าใจช่วยในการวางแผนภาษีให้พนักงาน
อ่านเพิ่มเติม: ยื่นภาษี ภ.ง.ด.90,91 อย่างไรให้ได้เงินภาษีคืนไวๆ
4. ภ.ง.ด.3 (PND3) ภ.ง.ด.3 เป็นแบบยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย สำหรับการจ่ายเงินได้ประเภทต่างๆ เช่น ค่าเช่า ค่าลิขสิทธิ์ ค่าบริการวิชาชีพ
ผู้ยื่น: ผู้จ่ายเงินได้
กำหนดยื่น: ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไปหลังจากเดือนที่มีการจ่ายเงินได้
ประโยชน์: ช่วยในการบริหารจัดการภาษีหัก ณ ที่จ่ายสำหรับรายจ่ายต่างๆ ของธุรกิจ
5. ภ.ง.ด.51 (PND51) ภ.ง.ด.51 คือแบบยื่นรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี
ผู้ยื่น: บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
กำหนดยื่น: ภายใน 2 เดือนนับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลา 6 เดือนแรกของรอบระยะเวลาบัญชี
ประโยชน์: ช่วยในการประเมินผลการดำเนินงานและภาระภาษีของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรก
6. ภ.พ.36 (PP36) ภ.พ.36 เป็นแบบนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบการที่อยู่นอกราชอาณาจักร
ผู้ยื่น: ผู้ประกอบการที่ซื้อสินค้าหรือบริการจากต่างประเทศ
กำหนดยื่น: ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไปหลังจากเดือนที่มีการจ่ายเงิน
ประโยชน์: ช่วยในการจัดการภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับธุรกรรมระหว่างประเทศ
การเข้าใจความแตกต่างระหว่างแบบภาษีต่างๆ เหล่านี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถบริหารจัดการภาษีของธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงในการผิดพลาดทางภาษี และวางแผนการเงินได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถสื่อสารกับเจ้าหน้าที่บัญชีและที่ปรึกษาภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกฎหมายภาษีมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ผู้ประกอบการควรติดตามข่าวสารและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าธุรกิจปฏิบัติตามกฎหมายภาษีอย่างถูกต้องและทันสมัย
หากคุณต้องการเริ่มต้นใช้โปรแกรมสำหรับ HR แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มอย่างไรและฟังก์ชันต่างๆจะตอบสนองความต้องการใช้งานของบริษัทคุณหรือไม่ ลองปรึกษา ByteHR ได้ฟรีทาง 02 026 3297 หรือติดต่อ sales@byte-hr.com